วันที่ 2 วันนี้ตื่นมากินข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จ ก็ไปรอรถ Bus กันนั่งบัสจากป้ายข้างโรงแรมไปเที่ยว Penang Hill กันวันนี้ โดยนั่งบัสสาย 204 ไปกันต่อเดียวถึงที่ Penang hill กันเลย โดยรถบัสที่นี่ขึ้นด้านหน้าบอกคนขับรถว่าจะไปไหน คนขับจะบอกราคามาเราก็จ่ายให้คนขับแล้วเค้าจะให้ตั๋วเรามา รถบัสที่นี่ไม่มีทอนนะ ต้องเตรียมให้พอดีกันละ
ไปปีนังฮิลล์จากที่นี่จ่ายไป 2 ริงกิต นั่งไปเรื่อยๆเลยประมาณ 30 นาที ลงสุดสายเลยนะจะถึงที่ Penang Hill เลย
พอลงรถก็เดินไปอีกนิดเดียวจะเจอที่ซื้อตั๋ว ขนาดว่ามาเช้าแล้ว คนยังเยอะเลยแถวยาวมากกกกก ต่อๆไปซักพัก ก็รู้ว่าต่อแถวผิด โด่ๆๆๆๆ มันจะมีแยกว่าสำหรับคนมาเลเซีย กะ คนต่างชาตินะ ไปแถวคนต่างชาติคนจะน้อยลงนิดนึง !! ตั๋วจะมี 2 แบบนะ แบบ Normal 30 RM กับ Fast lane 60 RM ต่างกันเท่านึงแนะ เราเห็นคนแล้วเลยกัดฟันซื้อแบบ Fast lane มาเลยเท่านึง อ่อออร์ก้านั่งฟรีนะ ต่ำกว่า 4 ขวบฟรี
พอขาขึ้นแถวไม่ยาวมากเราก็รู้สึกเสียดาย โห ไม่น่าซื้อแบบ Fastlane มาเลยเห็นคนต่อแถวซื้อตั๋วนึกว่าจะคนรอข้างในเยอะ แต่ดีอย่างนึงคือพวก Fastlane เนี่ยจะได้ขึ้นรถก่อนเลย สามารถวิ่งไปจองที่ด้านหน้าสุด หรือหลังสุดได้นะ รถรางนั่งประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้ว เร็วมากๆ ถึงด้านบนจะเจอจุดชมวิวก่อนเลย เดินไปถ่ายรูปเล่นกันได้ ตรงนี้วิวสวยเลยเห็นเมืองปีนังแล้วก็สะพานที่ข้ามมาปีนังด้วยละ
เสร็จจากจุดแรกก็เดินไปเรื่อยๆตามทางเลยตามๆคนไปจะเจอจุดให้ส่องกล้อง ตรงนี้มีที่ให้ลงไปคล้องกุญแจถ่ายรูปด้วยนะ แต่ต้องเสียตังลงไป เราก็เลยเดินไปต่อเลยมันจะมีอีกที่คล้องกุญแจสวยกว่านี้
แต่เดินไปซํกพัก หิวแล้วก็เลยกะหาอะไรกิน ด้านบนนี้มี Food court ด้วยนะ ราคาปกติ พอๆกับด้านล่างเลย มีอาหารให้เลือกหลายอย่างอยู่
พอกินเสร็จตรงด้านบน Foor court นี่จะเป็นโซนให้คล้องกุญแจคู่รัก อารมณ์แบบโซลทาวเวอร์เลย แต่ต่างกันที่ตรงนี้มันร้อนมาก จะละลายยย เดินถ่ายรูปเล่นแปปเดียวต้องรีบหนีไปหลบแดด เด๋วจะเกรียมกันก่อน
พอถ่ายเสร็จหนีออกมา ก็เดินๆตามทางจะกลับลงข้างล่างกันละ ระหว่างทางก็เจอที่ส่องทางไกลออร์ก้าอยากส่อง ก็เลยจัดไป 1 RM ก็โอเคนะ ประมาณ 1 นาที ส่องได้ไกลอยู่
พอส่องเสร็จก็เดินทางกลับไปนั่งรถรางลงเหมือนเดิม คราวนี้ Fastlane จะดูเท่ห์มากๆ เพราะแถวขากลับยาวมากกก ไปเข้า Fast lane มีแต่คนมองมา ไปรอแปปเดียวได้ลงเลย คุ้มตรงนี้ไม่เสียเวลา ขาลงได้นั่งหน้าสุดเลย เจ๋งมากๆ ออร์ก้าตื่นเต้นใหญ่ บอกรถรางไม่มีคนขับ ออร์ก้าขับให้ 55
ขาลงมาก็ไปรอรถบัสที่เดิมเลยนะ แปปเดียวก็มาเราเลือกกลับโรงแรมเลย เพราะบ่ายอากาศร้อนออร์ก้าอยากกลับไปนอนที่โรงแรม ก็เลยยิงยาวกลับโรงแรมเลย ทีนี้ออร์ก้าง่วงหลับ คุณพ่อเลยขอแว๊บไปหาจิบกาแฟกิน วันนี้กาแฟยังไม่ตกถึงท้องเลย ไปกินที่ Mugshot ไปอ่านรีวิวร้านกาแฟที่นี่เลยนะ ทำไว้แยกต่างหาก ร้านกาแฟ ชิคๆ ที่ปีนัง The Mugshot & Awesome Canteen
พอกินเสร็จกลับไปโรงแรม เราจะไปกินข้าวเย็นกันที่ Gurney Drive ที่นี่จะเป็น Food Court ริมทะเลใหญ่มาก ของกินเพียบเลยละ นั่งรอที่ป้ายกันไป เรารอตั้งนานจนลุงที่นั่งหน้าโรงแรมถามจะไปไหน จึงรู้ว่าต้องไปอีกป้าย ถถถถถ ป้ายข้างโรงแรมสายที่เราจะขึ้นไม่ผ่าน อ่อ เราสามารถเปิด Google map ดูได้เลยนะ จะมีสายรถบอกว่านั่งสายไหนได้ด้วย เจ๋งมากๆ แต่เหมือนมันไม่ update ป่าว ดูว่ามันผ่าน แต่เอาจริงๆมันไม่ผ่านแฮะ ดีนะลุงบอก
ก็เดินกันไปขึ้นอีกป้ายไม่ไกลนะ ซัก 200 เมตรได้เดินชิวๆชมเมืองไป
ก็นั่งรอรถกันไปใครจะไปให้ลงป้าย Gurney Plaza นะ จะเป็นห้างใหญ่มาก ลงแล้วเดินข้ามถนนไปเข้าห้างเลย แล้วเดินทะลุไปอีกฝั่งของห้าง จะไปโผล่ด้านริมทะเล ก็เดินๆไปชิวๆ ตามริมทะเลไปด้านซ้ายมือนะ จะไปเจอกับ Gurney Food Court
อ่อริมทะเลมันไม่ค่อยสวยนะ หาดดำๆ เค้ากันกรงเหล็กไว้ด้วย ลงไปชิวในทะเลไม่ได้นะ เราก็เดินถ่ายรูปกันไป ออร์ก้าสนุกสนาน
แล้วเจอ Foor Court ก็เหมือนเดิม หาที่นั่งเลย แล้วสั่งน้ำก่อนจัดน้ำอ้อยใส่มะนาวมา แล้วก็จัดน้ำมะพร้าวให้ออร์ก้ากิน ลูกมะพร้าวที่นี่เจาะฝาพร้อมเปิดเลยนะ เจ๋งดี แล้วก็ไปหาสั่งอาหารกันที่เด็ดๆจะเป็นร้านหมูสะเต๊ะ กับ ร้านบะหมีผัดคล้ายๆผัดไท คนจะต่อแถวยาวมากๆ หาไม่ยากเลย แต่เราไม่ได้สั่งขี้เกียจต่อแถว 555 สั่งร้านอื่นแทนแต่เอาแบบเดียวกัน
หม่ำเสร็จเราเดินไปเข้าห้างต่อไปซื้อของใน supermarket เพราะว่านมกล่องออร์ก้าที่เอามาเหลือไม่กี่กล่องแล้วจะไม่พอเอา เลยต้องมาหาซื้อนมกล่องที่นี่มีหลายแบบ ราคาแพงกว่าบ้านเรานะ แนะนำให้พกนมสำหรับเด็กมาให้พอดีกว่า อ่อพวกแพมเพิสอะไรนี่ก็มีนะ แต่ปกติเวลาเดินทางเราจะพกของใช้ของเด็กให้พอดีไว้ก่อน ไม่เผื่อมาซื้อที่อื่น ยกเว้นเดินทางที่ไทยไม่ห่วงเลยหาง่าย มาเมืองนอกก็พยายามเตรียมให้ครบไว้ก่อน ถ่ายรูปพวกของใช้เด็กมาพอสมควรลองดูกันครับ
แล้วก็แวะซื้อมาม่ากินคืนนี้ซะหน่อย มั่วกันไปเลย เลือกรสจัดๆไว้ก่อนปลอดภัยสุดน่าจะอร่อย 555 เดาล้วนๆ แต่เวลาไปประเทศอื่นๆก็เลือกแบบนี้มาตลอดนะ ไม่ผิดหวังอย่างน้อยก็กินได้รสชาติพอได้มาตลอด
ช้อปปิ้งเสร็จก็เดินทางกลับกัน ตอนกลับต้องไปนั่งรถอีกที่นะ เดินไปทาง Gurney Drive Food Court นะเจอวงเวียนแล้วก็เลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆจนเจอสี่แยกข้ามถนนไป ป้ายรถเมล์จะมืดๆหน่อยนะ ตอนแรกก็งงๆ พอดีเจอคนนั่งคนนึงเลยเดินไปถามเค้า ก็เลยชัวร์ว่านั่งตรงนี้กลับได้ นั่งไม่นานซัก 20 นาทีก็ถึง โรงแรม
หมดไปอีก 1 วัน เดี๋ยวอีกตอนเราจะไปปั่นจักรยาน 4 ล้อเที่ยวชม Street Art ในปีนังกันให้จุใจไปเลย รอชมอีกที Part 3 กันนะค้าบ
