ปีนัง จริงๆ ก็ยังไม่ได้คิดจะไปเท่าไร ทริปนี้เริ่มจาก Airasia 0 บาท กดจองไปกลับ เชียงใหม่ – หาดใหญ่ ได้คนละ 200 อะถูกเวอร์ จองล่วงหน้ากะไปเที่ยวหลีเป๊ะทะเลสีฟ้าสดใส หาดทรายขาว จองไปแบบไม่คิดอะไร แต่ . . . . พอเริ่มใกล้ๆ เดินทาง 3-4 เดือน เฮ้ย ช่วงที่ไปมันมรสุมนี่นา เกาะเค้าก็ปิด ไปเที่ยวแต่หลีเป๊ะได้อย่างเดียว เกาะฮิตๆที่อยากไปมันปิดหมดเดะ รีบคิดโดยพลัน แถวๆหาดใหญ่มันไปไหนได้มั่งเนี่ย คิดไปคิดมาปีนังเลยดีกว่า แต่กังวลอย่างเดียวออร์ก้านั่งรถตู้นาน 4 ชั่วโมงจะไหวมั้ย แต่น่าจะได้แหละ ตัดสินใจไป
ขาไปเราไม่ได้จองที่นั่งเพิ่มเลย อาศัยทำ Web Check-in โชคดีได้ติดกัน เฮงสุดๆ ไม่งั้นจะซื้อที่นั่งถ้าไม่ได้ติดกัน ส่วนกระเป๋าเราใช้บัตรเครดิตแอร์เอเซียนะแถมคูปองโหลดกระเป๋าฟรี 4 ใบสบายๆ ทริปนี้เครื่องออกเช้ามาก 6.45 ออร์ก้าไม่ค่อยงอแงเท่าไร ชอบเดินทางปลุกตี 5 ครึ่งขุดออกจากเตียงไปขึ้นรถเลย ไปหม่ำข้าวบนเครื่อง เดินทางกะเด็กเล็กนี่เอากับข้าวที่เค้ากินได้ไปด้วยดีกว่า airasia ก็ไม่ว่าอะไรนะ เพราะคงเห็นเป็นเด็ก พกข้าวกล่องมากิน ออร์ก้าสนุกสนานกันไปบนเครื่องบิน
เครื่องลงที่สนามบินการเดินทางไปในตัวเมืองหาดใหญ่นี่มี รถตู้คนละ 100 มั้ง , Taxi มิเตอร์ ส่วนมากโดนเหมา 250 บาทเข้าตัวเมือง และ สุดท้ายรถสองแถว ระดับเราแล้วลองรถสองแถวคร้าบสีฟ้าๆ เดินออกจากสนามบินตรงอย่างเดียวจนเจอศาลา จะมีรถจอดฝั่งตรงข้าม เราต้องรอรถเต็มถึงจะออกนะ ไม่ได้เป็นเวลา คนขับนี่ก็รอจนคิดว่าเต็มแน่นอะ ถึงจะออก นั่งเป็นปลากระป๋องกันไป ไม่แนะนำเลยนะ ถ้าคนมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เรามีกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ รถเข็นเล็กๆอีกอัน ยังนั่งแล้วแน่นเลย รถวิ่งประมาณ 30 นาทีก็ถึงตลาดกิมหยงนะ จ่ายค่ารถคนละ 30 เด็กฟรี
พอลงรถแล้วเราก็เดินลากกระเป๋าไปฝาก ที่ KST Travel หาไม่ยากนะประมาณ 400 เมตรจากตลาดกิมหยง โดยจะอยู่ตรงข้ามโรงแรม Aloha เลย โดยปกติรถไปปีนังจะมีรอบ (9:30 / 12:30 / 15:30) เราเครื่องลงก็จะ 9 โมงละ เอารอบ 12.30 ชัวร์กว่า ค่ารถตู้ไปกลับ หาดใหญ่ – ปีนัง ราคา 800 บาทนะ 3 คน 2,400 บาท
ฝากกระเป๋าเสร็จก็ไปหาข้าวหม่ำกัน มาหาดใหญ่ก็ต้องกินไก่ทอดสิ Search google ไปว่าตรงไหนมี เลยได้กินไก่ทอดเดชา จริงๆก็น่าจะเดินได้ แต่ท่าจะเหนื่อย เลยนั่งรถคันเล็กๆ ไปคนละ 20 บาทนะ ส่วนมากนั่งในตัวเมืองหาดใหญ่ไม่ไกลมาก คิดเที่ยวละ 20 หมด
กินไก่ทอดกันเสร็จก็เดินเล่นมารอขึ้นรถรอบ 12.30 รถเราเป็นรถตู้ commutor นั่งได้ ข้างคนขับ 1 คน แถวแรก 3 คน แถวที่สอง 3 คน ส่วนแถวสุดท้ายนั่งได้ 4 คนจะแคบที่สุด พวกเราแนะนำเลยให้จองที่นั่งไว้ก่อน เราระบุตอนจ่ายตังผ่านเว็บเลย ว่าขอนั่งที่นั่งหลังคนขับ ตรงนี้จะที่นั่งกว้างสุดเลย นั่งสบายกันไปยาวไป ที่ KST เค้าจะเขียนใบ ตม ไว้ให้เราเลย เราแค่เซ็นชื่ออย่างเดียวจบ
รถออกไปประมาณ 45 นาที ก็จะถึงด่านแรก ด่านสะเดานะ เค้าจะให้เราจ่ายเงิน 10 บาทให้คนขับรถ คนขับจะเอาไปจ่ายไม่รู้ค่าอะไรลืมถาม จ่ายๆไป 555 เราก็ลงตัวเปล่าเอา passport ไปพอนะ ก่อนเข้าด่านตรงนี้จะมีห้องน้ำนะ ( 5 บาท) แล้วก็ไปรอแถวตรวจจากด่านไทยใช้เวลานานหน่อยแถวนี้แถวจะยาว ตรวจเสร็จนั่งรถตู้ต่อนะ ไปด่านมาเลเซีย ทีนี้จะต้องเอากระเป๋าเดินทางลงไปแสกนที่ด่านของมาเล แต่ตรวจเข้าเมืองไม่นานเลย แสกนนิ้ว ปั๊ม passport จบ ไม่ต้องเขียนใบ ตม ด้วย สงสัยจริงๆ ใบตม ของไทย เค้าเอาไปอ่านกันบ้างไหมเนี่ยเปลืองกระดาษเนอะ 555 เอาจริงๆ ขี้เกียจเขียนต่างหาก อ่อออกจาก ตม มาเลย์จะมีห้องน้ำอยู่ด้านขวามือ ฟรีด้วยนะ ใครอยากประหยัดอั้นมาเข้าฝั่งมาเล ประหยัดไป 5 บาท แหะๆๆ แต่ห้องน้ำเหม็นมากกกกกก
อ่อพวกเราใช้ Sim2Fly ของ Ais นะสะดวกดี 390 บาท ใช้ได้ 3 GB ใช้งานได้ 8 วัน เหลือๆ อะเทียบกะ sim มาเลที่อ่านๆมาแล้วอันนี้สะดวกกว่านะราคาพอๆกัน ใช้เสร็จเก็บ sim ไปใช้รอบหน้าแค่เติมเงินแล้วสมัครแพคเกจ 350 ก็ใช้ได้เหมือนเดิมนะ ลองอ่านดูในเว็บเอา เดี๋ยวตอนเขียนจบจะให้ดูว่าเหลือกันกี่ MB นะ หาซื้อกันก่อนไปเลยมีเกือบทุกที่ใน AisShop หรือที่สนามบินก็มีขายนะลองหากันดู ไม่ได้ค่าโฆษณาเล้ยยย ซื้อมารอ เดี๋ยวจะมีไปฮ่องกงอีกทริป เก็บไว้ใช้ได้แต่ต้องซื้อ package ใหม่ (AIS ถ้าผ่านมาเจอ blog นี้ช่วยสนับสนุนการเดินทางทริปหน้าด้วยนะครัช 555)
ตรวจเสร็จก็ไปต่อคราวนี้นั่งยาวเลยประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งได้ รถตู้นี่จะกลัวตำรวจมากเลย เพราะเค้าว่ารถจากไทยเข้าไปถ้าเป็นรถโดยสารจะผิดกฎหมาย เวลาโดนเรียกทีจะโดน 1000 บาท ตลอด เค้าก็จะโทรเช็คๆ กับรถตู้คันข้างหน้าตลอด ตรงไหนที่เหมือนจะมีก็จะชลอ ช้ากันตรงเนี่ย เดี๋ยวขับเร็วเดี๋ยวหลบตำรวจไปเรื่อยๆ จนประมาณ 2 ชั่วโมงได้ รถก็จะมาถึงสะพานข้ามไปปีนังแล้ว สะพานยาวมากกก ตื่นเต้นกันเลย ดูวิวเพลินๆ พอเข้าปีนัง รถตู้จะส่งพวกคนตามที่พักที่ระบุไว้ถึงที่เลย รวมๆเดินทางถึง โรงแรมใช้ไปประมาณ 4 ชั่วโมงได้
ที่พักเราจองไว้ก่อนเดินทางไม่ถึงเดือน มาไม่ใช่ช่วงพีคไม่ต้องกลัวหาที่พักไม่ได้ มีเยอะแยะ แต่เรามีโจทย์คือไม่เอาโฮสเทล มีเด็กเล็กไปด้วยนอนลำบาก โรงแรมต้องมีอ่างอาบน้ำ ออร์ก้าเที่ยวมาทั้งวันจะได้เล่นอ่างอาบน้ำเพลินๆ และสุดท้ายเลยต้องไม่แพง 5555 หากันไป โรงแรมที่ไม่แพงที่ปีนังมีเยอะนะ เรามาได้โรงแรมนี้โอเคเลย โชคดี Mechant Hotel Penang ประมาณคืนละ 1200 มั้งถ้าจำไม่ผิด รวมอาหารเช้าด้วยอีกต่างหาก โรงแรมจะมองเห็นวิวทะเลด้วยนะ มองจากหน้าต่างได้ แต่ไกลหน่อย ในห้องพักไม่แคบนะ สบายๆเลย มีน้ำให้ 3 ขวด มีน้ำชาเป็นกล่องให้กินฟรีอีกอะวันละ 2 กล่อง เติมทุกวันอีกต่างหากแจ่มมาก ส่วนอุปกรณ์ในห้องน้ำก็ครบครัน โรงแรมอยู่ใกล้ป้ายรถเมล์ด้วยนะนั่งยาวไป Penang Hill ได้เลย
เก็บของเสร็จแล้วประมาณ 5 โมงกว่าแล้ว เลยออกไปเดินเล่นกัน ที่นี่เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง แต่ว่าเอาจริงๆ กว่าจะมืดปาไปเกือบทุ่มครึ่งเลยอะ เลยมีเวลาเดินเล่นตอนเย็นกันได้ยาวๆ จากโรงแรมเดินไปเส้นถนนด้านหลังมันจะไปทะลุ Love lane ได้เลย วันนี้เราก็เจอ Street Art หลายตัวเลย ถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆไป ออร์ก้าสนุกสนาน ไม่มีท่าทีเหนือยจากการเดินทางเลย
เดินถ่ายรูปเจอตัวเด็ดๆหลายรูปเลย Street Art ที่นี่จะมีแบบเป็นภาพวาดนะแล้วก็แบบที่เป็นเหล็กดัดจะเป็นอารมณ์ตัวการ์ตูนๆ ดัดน่ารักดี กลางคืนมีเปิดไฟส่องด้วยนะที่เป็นเหล็กดัดเนี่ย
เหอะๆ เดินไปเรื่อยๆ แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เจอคุณลุงพายเรือด้วยเคยเห็นในพวกรีวิวปีนังเจอคุณลุงตลอด คราวนี้มาเจอเองตัวเป็นๆ 555
เดินมาจนทะลุปากซอย love lane ตรงข้ามจะมีฟู้ดคอร์ดด้วยนะที่ love lane แต่เราไม่กิน วันนี้เราเลือกจะมากินที่แถวๆโรงแรม
ขาเดินกลับเดินอีกเส้นไปเจอมิสเตอร์บีนอยู่ตรงซอยเข้าโรงแรม Grand Swiss Hotel ทางผ่านขากลับพอดีด้วย เดินผ่านไปเจอคนจีนมามุงถ่ายอยู่เลยโชคดีเจอไม่งั้นไม่ได้เจอมิสเตอร์บีนแล้ว อิอิ
เรากลับมาที่ Red Garden Food Court อยู่ข้างๆโรงแรมเลยตรงทางเข้าด้านหน้าจะมีรูปรถสามล้อใหญ่ๆเลย
มาฟู้ดคอร์ทที่นี่จะต้องสั่งน้ำกันทุกโต๊ะนะ เหมือนร้านน้ำเป็นคนคุมโต๊ะ ส่วนข้าวนี่เราไปสั่งได้ตามสบายเลย สั่งๆ จ่ายตัง เดี๋ยวเค้าเอามาส่งนะ วันแรกก็กินง่ายๆ ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดงกันไป ส่วนน้ำเนี่ยแนะนำเลย น้ำมะกอกใส่บ๊วย กินแล้วสดชื่นนนนน แต่ๆๆๆ เก่งกะออร์ก้าไม่ชอบ บอกว่าเหมือนน้ำผักแหวะๆๆ โห อร่อยจะตาย
กินเสร็จกลับโรงแรมออร์ก้ากระโดดน้ำในอ่างฟินๆ แล้วก็จบไปหนึ่งวัน วันนี้เดินทางตั้งแต่เช้าจริงๆ ได้เที่ยวนิดเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปลุย Penang Hill ชมวิวสูงๆของเมืองปีนังกันล่ะ ไว้ไปเจอกัน Part2 นะค้าบ